ม่านปรับแสงมี 4 ชนิด
ตัวอย่างผ้าม่านบนเว็ปไซต์ เป็นตัวอย่างเพียงบางส่วนของ KITAVORN เท่านั้น สามารถดูตัวอย่างเพิ่มเติมได้ที่
@kijtavorn ใส่ @ ด้วยนะคะ (Click to add friend)
เชื่อแน่ว่าแต่ละบ้าน ย่อมต้องมีปัญหากับแสงภายในบ้านแน่นอน สำหรับใครที่ไม่ได้ติด ม่านปรับแสง ก็คงต้องหาทางแก้ปัญหากันไป เพราะ หากเราติดม่านธรรมดา ที่แค่เอาไว้บังแดด แต่ความสะดวกในการใช้อาจจะไม่ได้ทำให้เราสะดวกใจที่จะใช้มากนัก เช่น หากเป็นห้องที่มีกระจกบานใหญ่ และเราใช้ม่านทึบเพื่อบังแสง ซึ่งหากถึงเวลาที่เราต้องใช้ แสง ที่เราตั้งใจติดกระจก หากไม่ได้เป็น ม่านปรับแสง การปรับแสง เพื่อเปลี่ยนสีของแสง ให้ความสวยงามในบ้านของเราแล้วถือว่าเราค่อนข้างพลาดพอสมควร เพราะหากใช้แค่ม่านธรรมดา ถึงแม้เราจะเลือกที่จะเปิดปิดม่านได้ แต่หากพื้นที่ที่ต้องการแสงสว่าง แบบต้องการกันแสงด้วย ม่านปรับแสง น่าจะตอบคำถามของเราได้มากกว่า
เพราะปัจจุบันที่เรามี ม่านปรับแสง อยู่หลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น ม่านปรับแสง ในรูปแบบผ้าเองที่ แต่ละแบบก็มีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป เพราะเราสามารถที่จะเลือกการป้องกัน หรือ เพิ่มสีสันของแสงได้โดยการเลือกเนื้อผ้าของม่าน หรือ เปลี่ยนเป็นการปรับแสงเข้าออกตามใจของเรา หรือหากใครที่ชอบแบบล้ำสมัยหน่อย หรืออยากให้ความรู้สึกแบบได้อยู่สำนักงานก็อาจจะเลือกใช้ ม่านปรับแสงแบบอลูมิเนียมก็ลำสมัยไปอีกแบบ เนื่องจากจะได้แสงที่ดูมีสีสันยิ่งขึ้น ซึ่งเหมาะมากกับห้องทึบ ๆ ที่ต้องเปิดแอร์ทั้งวัน และ อยากได้รับแสงจากธรรมชาติด้วย
ม่านปรับแสง ตัวเลือกสำหรับคนที่รักธรรมชาติที่ขาดสีสันไม่ได้ เพราะอย่างน้อยการได้รับแสงก็ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้ ซึ่งเหมือนกับการได้ใกล้ธรรมชาติมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ แสงเช้าที่ใคร ๆ ก็รู้ว่าช่วยในเรื่องของผิวพรรณได้อย่างดี หรือ หากใครที่ชอบแสงบ่าย แต่ไม่ชอบความร้อนแรงของแดดที่ร้อนจ้า ม่านปรับแสงตัวเลือกที่น่าจะใช่ที่สุด ไม่ใช่แค่ช่วยปรับสมดุลแสงไม่ให้จ้า หรืออ่อนจนเกินไป แต่ ม่านปรับแสง มันเป็นอะไรที่ จะเพิ่มความสวยงามให้เราได้มากกว่า เพราะแสงที่ส่องกระทบม่าน มันได้ผ่านม่านมาหนึ่งชั้น และจะเหลือเป็นเพียงสีสันที่เราจะได้รับรู้เท่านั้น
ม่านปรับแสง ปัจจุบัน มีหลายแบบ หากเราชอบที่จะได้สีค่อนข้างอ่อน หรือ มีการป้องกันมากหน่อย เราอาจจะเลือก เป็น แบบป้องกันแดดได้มากหน่อย หรือจะเลือกแบบ ซันสกรีนไปเลยก็ยิ่งจะดี แต่หากเราชอบที่จะได้แสงอ่อน ในตอนเช้า อาจเลือกม่านปรับแสงแบบที่กันแสงได้น้อยมันก็ช่วยให้เรารับแสงได้มากขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่แต่ละพื้นที่ด้วย เช่น หากชอบแสงเช้าอาจจะเลือก ม่านดิมเอาท์ และ ด้านฝั่งตะวันตก อาจจะเลือกเป็นแบบ ซันสกรีนก็จะป้องกันและ ได้รับแสงที่เราต้องการได้มากขึ้นอีกด้วย
หากพูดถึง “ผ้าม่าน” ในยุคปัจจุบัน หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า ผ้าม่านนับได้ว่ามีหลากหลายประเภท หลากหลายรูปแบบด้วยกัน ซึ่งผ้าม่านแต่ละรูปแบบนั้นก็จะมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นแตกต่างกันออกไป รวมไปถึงประโยชน์หลัก ๆ ของผ้าม่านแต่ละชนิดนั้น ถึงแม้ว่าภาพลักษณ์โดยรวมแล้วดูเหมือนว่าผ้าม่านแต่ละรูปแบบ แต่ละชนิดมักจะมีประโยชน์ที่เหมือน ๆ กันก็ตาม แต่จริง ๆ แล้วผ้าม่านแต่ละชนิดก็ยังคงมีประโยชน์ที่แยกย่อย และมีประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละประเภทโดยตรง ส่งผลทำผ้าม่านแต่ละรูปแบบสามารถตอบโจทย์ และสามารถตอบสนองผ่านการใช้งานได้อย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งลักษณะของผ้าม่านก็จะมีความสวยงามที่แตกต่างกันออกไปอย่างชัดเจน และสำหรับในวันนี้ เราขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ “ผ้าม่านปรับแสง” ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผ้าม่านหลากหลายรูปแบบที่กำลังได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน ซึ่งเราขอสรุปรายละเอียดของม่านปรับแสง มีดังนี้
ม่านปรับแสง ถือได้ว่าเป็นม่านที่ใช้บังแสงแดดในแนวตั้งได้โดยตรง ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อที่จะทำหน้าที่ในการบดบังแสงแดด พร้อมทั้งเป็นม่านที่สามารถปรับแสงภายในห้องได้ตามต้องการของผู้ใช้งาน ม่านชนิดนี้จะถูกผลิตขึ้นจากผ้ามาเคลือบกับโค้ดติ้ง และ วัสดุที่ทำมาจากพีวีซี ส่วนใหญ่ม่านปรับแสงจะถูกนำไปใช้งานภายในสำนักงานและออฟฟิศต่าง ๆ เนื่องจากลักษณะของม่านจะสามารถเปิดปิดให้มองเห็นภายนอกได้ดั่งใจ ทำให้ม่านชนิดนี้ประกอบไปด้วยข้อดีและข้อเสียปะปนกัน ส่วนประเภทของผ้าม่านปรับแสงจะประกอบไปด้วย 3 ประเภท ดังนี้
ถือได้ว่าเป็นผ้าม่านปรับแสงในรูปแบบของผ้าทึบแสง 100 เปอร์เซ็นต์ ทำให้แสงไม่สามารถลอดหรือผ่านเข้ามาในห้องได้ในกรณีที่มีการปิดผ้าม่าน
เป็นผ้าม่านปรับแสงที่แสงสามารถลอดผ่านเข้ามาได้ แต่ผู้ใช้งานจะไม่สามารถมองเห็นด้านนอกของห้องได้
เป็นผ้าม่านปรับแสงแบบที่สามารถมองทะลุออกไปทางด้านนอกได้ แต่คนภายนอกจะไม่สามารถมองเห็นคนทางด้านในได้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน ด้านที่ดูสว่างกว่าจะกลายเป็นด้านที่ถูกมองเห็นได้ชัดเจน
ผ้าม่านปรับแสง ถือได้ว่าเป็นผ้าม่านที่มีลักษณะโดดเด่นและมีความแตกต่างไปจากผ้าม่านชนิดอื่น ๆ อย่างชัดเจน เพราะเป็นผ้าม่านที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแสงที่ผ่านหรือสาดส่องเข้ามาในห้องได้เสมอ อีกทั้งผู้ใช้งานยังคงสามารถปรับมุมมองของใบผ้าม่าน ที่มีลักษณะพลิกขึ้นลงได้ตามความต้องการอีกด้วย ซึ่งจะส่งผลทำให้มองเห็นทัศนียภาพภายนอกได้ แต่คนภายนอกอาจจะมองเห็นคนภายในได้ยาก หรือ อาจจะไม่เห็นเลย นั่นเอง
หากจะทำความสะอาดม่านปรับแสง จะต้องเน้นทำความสะอาดม่านทีละเส้นเท่านั้น และถ้าหากต้องพลิกใบ ต้องค่อย ๆ พลิกและค่อย ๆ เช็ดทำความสะอาด หากพลิกไม่ดีหรือเช็ดแรงจนเกินไป ผ้าม่านอาจจะเกิดความเสียหายได้ง่าย
การดูแลรักษาและการทำความสะอาดยากนี้เอง ถือได้ว่าเป็นข้อเสียของม่านปรับแสงโดยตรง แต่ข้อดีของม่านชนิดนี้ก็คือ ราคาไม่แพง และคุ้มค่าต่อการใช้งาน และยังคงเป็นผ้าม่านที่มีความเหมาะสมต่อการนำไปใช้ภายในสำนักงานและออฟฟิศอย่างมากที่สุดอีกด้วย
และทั้งหมดนี้ก็คือข้อมูลโดยรวมของ “ผ้าม่านปรับแสง” ผ้าม่านรูปแบบหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะสำนักงานและออฟฟิศต่าง ๆ มักจะทำการเลือกใช้ผ้าม่านชนิดนี้โดยตรง เนื่องจากว่าหลัก ๆ แล้วผ้าม่านชนิดนี้จะมีความคุ้มค่า คุ้มราคาเป็นอย่างมากเลยทีเดียว